ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ระบุว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลกเผชิญภาวะบีบตัวขั้นรุนแรงท่ามกลางปัญหาอุปทานติดขัดและการขาดแคลนการลงทุน โดยสถานการณ์มีแต่จะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายพอล บล็อกซ์แฮม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC กล่าวว่า "ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลกเผชิญภาวะบีบตัวขั้นรุนแรงมาสักระยะแล้ว"
นายบล็อกซ์แฮมอธิบายว่า ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์บีบตัวขั้นรุนแรงเกิดจากราคาที่ปรับตัวขึ้นจากผลพวงของภาวะติดขัดด้านอุปทาน มากกว่าการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอุปสงค์
"หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์แพงเพราะปัญหาติดขัดด้านอุปทานย่อมส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก" นายบล็อกซ์แฮมระบุ โดยกล่าวเสริมว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่แพงขึ้นจากปัญหาการบีบตัวขั้นรุนแรงนั้นไม่ใช่ปัจจัยบวก
"เราเห็นว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะบีบตัวขั้นรุนแรงในด้านอุปทานจะยังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น" นายบล็อกซ์แฮมระบุ โดยปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขาดแคลนการลงทุนในด้านการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ได้รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและสงครามในยูเครน ซึ่งบั่นทอนการค้าโลกและภาวะติดขัดด้านการขนส่งสินค้าจากการโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงแบบต่อเนื่องของกลุ่มกบฏฮูตีจากเยเมน
อีกปัจจัยคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งขัดขวางซัพพลายเชนและอุปทานสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะในภาคกสิกรรม
"ปัญหาบีบตัวขั้นรุนแรงจะรุนแรงขึ้นและยืดเยื้อมากขึ้น หากภาวะติดขัดด้านอุปทานที่เกี่ยวพันกับภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานนั้นรุนแรงกว่าที่คาดการณ์" นายบล็อกซ์แฮมระบุ