ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นประกาศระงับการทำ Short Selling หรือขายชอร์ตหุ้นบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงหุ้นที่อยู่ใน Lock-Up Periods หรือหุ้นที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขการห้ามขายในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (29 ม.ค.) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
คำสั่งดังกล่าวของตลาดหุ้นทั้งสองแห่ง มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) ได้สั่งให้ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์บางแห่งห้ามขายชอร์ตในดัชนีตลาดหุ้นล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างเสถียรภาพในตลาด
ทั้งนี้ Short Selling คือการยืมหุ้นมาขายในช่วงที่ตลาดอยู่ในทิศทางขาลง ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างรุนแรง โดยนักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีหุ้นตัวนั้นอยู่ในพอร์ต แต่สามารถไปยืมหุ้นจากโบรกเกอร์ที่ตนเองเปิดบัญชีซื้อขายอยู่มาทำการขายออกไปก่อน หลังจากนั้น หากราคาหุ้นปรับตัวลงตามที่ประเมินไว้ นักลงทุนก็จะทำการซื้อหุ้นตัวนั้นกลับคืนในราคาที่ต่ำกว่าตอนที่ยืมมาขาย แล้วนำไปคืนให้กับโบรกเกอร์ โดยได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นที่ขายไปและราคาที่ซื้อกลับคืนมา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนมีความตั้งใจที่จะกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักขึ้น หลังจากความพยายามในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงการที่หน่วยงานของรัฐบาลจีนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น ไม่สามารถหนุนตลาดให้ดีดตัวขึ้นได้
ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลจีนพยายามจำกัดการขายชอร์ตในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนอย่างหนัก และมีรายงานว่าทางการจีนได้สั่งระงับการขายชอร์ตเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เพื่อสกัดการร่วงลงของตลาดหุ้น