อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 2.47% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2545 หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง และตลาดหุ้นที่ถูกเทขายอย่างหนัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบาย และอาจจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีกในไตรมาส 1 และในไตรมาส 3 ปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับลด RRR ลง 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินในระยะยาวไหลเข้าสู่ระบบจำนวน 1 ล้านล้านหยวน (1.39 แสนล้านดอลลาร์)
โฮ เหว่ยเฉิน นักวิเคราะห์จากธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส แบงก์กล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของจีนร่วงลงเนื่องจากมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ก่อนที่จะประกาศอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันที่ 20 ก.พ.
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า จีนอาจจะเผชิญภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงและวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เรย์มอนด์ ยัง นักวิเคราะห์จากบริษัทออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิง กรุ๊ปกล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงอยู่ในช่วงขาลง และคาดว่าดัชนีชี้วัดภาคอสังหาริมทรัพย์จะอ่อนแรงลงต่อไปอีก 2 ไตรมาส ขณะที่ภาคครัวเรือนยังคงขาดความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ และต้องการให้รัฐบาลจีนออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อพยุงภาคส่วนนี้