ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ บริษัทผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่และชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลกจากเกาหลีใต้ รายงานในวันนี้ (31 ม.ค.) ว่า กำไรจากการดำเนินงานปรับตัวลดลง 34.4% ในไตรมาส 4/2566 (เดือนต.ค.-ธ.ค.) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเหตุผลหลักเป็นเพราะธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ซบเซา แต่ธุรกิจชิปหน่วยความจำพลิกกลับมาทำกำไรเนื่องจากอุปสงค์ฟื้นตัว
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารที่ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลว่า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีกำไรจากการดำเนินงาน 2.82 ล้านล้านวอน (2.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 4/2566 เทียบกับ 4.3 ล้านล้านวอนในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ด้านกำไรสุทธิร่วงลง 73.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 6.34 ล้านล้านวอนในไตรมาส 4/2566 และยอดขายลดลง 3.8% สู่ระดับ 67.77 ล้านล้านวอน
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ระบุว่า บริษัทได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุน 7.55 ล้านล้านวอนในด้านการวิจัยและพัฒนาในไตรมาส 4/2566 ซึ่งถือเป็นการลงทุนรายไตรมาสครั้งใหญ่ที่สุด
สำหรับตลอดทั้งปี 2566 ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มียอดขายรวมทั้งสิ้น 258.93 ล้านล้านวอน ซึ่งลดลง 14.3% จากปีก่อนหน้า
ส่วนกำไรจากการดำเนินงานตลอดปี 2566 ร่วงลง 84.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับ 6.56 ล้านล้านวอน และกำไรสุทธิลดลง 72.2% สู่ระดับ 15.48 ล้านล้านวอน
รายงานระบุว่า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีกำไรจากการดำเนินงานรายปีต่ำกว่า 10 ล้านล้านวอนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งในปีนั้นบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.03 ล้านล้านวอน เนื่องจากเผชิญวิกฤตการเงินโลก
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ระบุว่า ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์มียอดขาย 21.7 ล้านล้านวอนในไตรมาส 4/2566 และขาดทุนจากการดำเนินงาน 2.18 ล้านล้านวอน แต่ธุรกิจหน่วยความจำ DRAM พลิกกลับมาทำกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขาดทุนในไตรมาส 1/2566 เนื่องจากอุปสงค์ชิปหน่วยความจำสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อุปกรณ์เคลื่อนที่ และเซิร์ฟเวอร์ Generative AI เริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังลดน้อยลง