โนว์เดอะเชน (KnowTheChain) องค์กรที่อุทิศตนแก้ปัญหาการบังคับใช้แรงงานในห่วงโซ่อุปทาน เปิดเผยว่า แบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่หลายแห่งของโลกคว้าน้ำเหลวในการจัดการปัญหาการบังคับใช้แรงงานในห่วงโซ่อุปทานของตนเอง
ผลการวิเคราะห์บริษัท 65 แห่งด้านความเสี่ยงต่อการบังคับใช้แรงงาน โดยประเมินตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (U.N. Guiding Principles on Business and Human Rights) เผยให้เห็นว่า บริษัทเหล่านี้ทำคะแนนเฉลี่ยได้เพียง 21/100
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า นโยบายและแนวปฏิบัติของบริษัทนั้นยังไม่เพียงพอ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้ง วิกฤตสภาพภูมิอากาศ และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการบังคับใช้แรงงานรุนแรงขึ้น
ผลวิจัยระบุว่า กว่า 20% ของบริษัทเหล่านี้มีคะแนนอยู่ที่ 5/100 หรือน้อยกว่า เนื่องจากไม่สามารถเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิ์ได้ ซึ่งโนว์เดอะเชนระบุว่าผลลัพธ์เหล่านี้ถือเป็น "การประณามต่อภาคส่วนที่ยังคงมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ บริษัทลูลูเลมอน (Lululemon) ของแคนาดา ทำผลงานได้ดีที่สุดในบริษัททั้ง 65 แห่ง ด้วยคะแนน 63/100 โดยได้รับการยกย่องจากการเปิดเผยหลักปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนที่เข้มแข็งเพื่อจัดการปัญหาการบังคับใช้แรงงานในห่วงโซ่อุปทาน
ขณะที่พูม่า (Puma) แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาจากเยอรมนี คว้าที่สองไปด้วยคะแนน 58/100 และอาดิดาส (Adidas) ที่ตามมาเป็นอันดับสามด้วยคะแนน 55/100
ส่วนทางด้าน ฟุต ล็อคเกอร์ (Foot Locker) บริษัทค้าปลีกสินค้ากีฬาของสหรัฐ ได้คะแนน 2/100 และ LVMH บริษัทสินค้าหรูของฝรั่งเศส ได้คะแนน 6/100