นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. และให้น้ำหนัก 62.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.
หากเฟดประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
-- ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้พิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ชะลอตัวจากระดับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค.
-- จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากสื่อรายงานว่า ขณะนี้กำลังมีการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมถึงปล่อยตัวพลเรือนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไว้เป็นตัวประกัน โดยข้อตกลงนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมานานร่วม 4 เดือน
แหล่งข่าวระบุว่า การเจรจายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและคาดว่าจะยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในเร็ววันนี้ อย่างไรก็ตาม การเจรจานี้มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง ซึ่งจะนำไปสู่การหยุดยิงและการปล่อยตัวประกัน นับตั้งแต่สงครามระหว่างสองฝ่ายเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.2% ในไตรมาส 1/2567
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งต่อไปในวันที่ 7 ก.พ.
สำหรับในปี 2566 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.2%, 2.1%, 4.9% และ 3.3% ในไตรมาส 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ
-- สหภาพยุโรป (EU) จัดการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมเมื่อวานนี้ โดยผู้นำทั้ง 27 ชาติของ EU บรรลุฉันทามติในการให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่แก่ยูเครนคิดเป็นวงเงิน 50,000 ล้านยูโร (54,000 ล้านดอลลาร์) หรือราว 2 ล้านล้านบาท
นายวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี สร้างความประหลาดใจต่อที่ประชุม EU โดยไม่ได้ใช้สิทธิวีโต้ข้อตกลงดังกล่าวแต่อย่างใด แม้มีการขู่ว่าจะใช้สิทธิวีโต้ก่อนหน้านี้
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ โดยกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ไตรมาส 4/2566, ฝรั่งเศสเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ทางด้านสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน