ดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง และตลาดแรงงานก็กลับสู่ภาวะสมดุลที่ดีขึ้น โดยอัตราการว่างงานไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ดอยซ์แบงก์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อย เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้แนวโน้มที่จะเกิดซอฟต์แลนดิ้งเป็นไปได้ยากขึ้น
ดอยซ์แบงก์กล่าวในวันจันทร์ (5 ก.พ.) ว่า ธนาคารคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตเฉลี่ยรายไตรมาส 1.9% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 0.3%
นายแมทธิว ลูซเซตติ หัวหน้าเศรษฐศาสตร์ของดอยซ์แบงก์สาขาสหรัฐ กล่าวว่า "แม้ว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ภาวะสินเชื่อที่ยังคงตึงตัว อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง แต่ศักยภาพในการฟื้นตัวในปัจจุบันบ่งชี้ว่าการชะลอตัวในปี 2567 จะไม่รุนแรงมากเท่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้"
นอกจากนี้แล้ว ดอยซ์แบงก์ยังคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิ.ย. โดยคาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยรวมตลอดทั้งปีที่ 1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.75%
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 4/2556 เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 3.3% ซึ่งเร็วเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมตลอดทั้งปีโต 2.5% แม้จะมีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจจะถดถอย หลังเฟดดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด