นายริวอิจิ อิซากะ ซีอีโอบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ เจ้าของธุรกิจเซเว่น อีเลฟเว่น ในญี่ปุ่น ได้ทุ่มเงินมากกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อลงทุนขยับขยายสาขา จนปัจจุบันครอบคลุมร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน และร้านค้าปลีก 85,000 แห่ง และยังคงขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
นายอิซากะ วัย 66 ปี เชื่อว่า สูตรเบื้องหลังความสำเร็จของเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถส่งออกไปทั่วโลกได้ โดยผ่านวิธีการซื้อกิจการ พร้อมเสริมว่า หากมีโอกาส เซเว่น อีเลฟเว่น จะพิจารณาการควบรวมและเข้าซื้อกิจการในเชิงรุก
"เราอยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะสามารถเติบโตได้" นายอิซากะกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก
เนื่องด้วยญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาประชากรสูงวัย เซเว่น แอนด์ ไอ จึงแสวงหาโอกาสในต่างประเทศ โดยมุ่งผลักดันการขยายกิจการเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วเอเชีย และยังมีแผนซื้อกิจการเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันอย่างสปีดเวย์ (Speedway) และซันโนโก้ (Sunoco) ในสหรัฐด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แนวคิดร้านสะดวกซื้อและตัวเซเว่น อีเลฟเว่น เองนั้นมีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐ แต่ก็ได้กลายเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่สำหรับบริษัทญี่ปุ่นรายนี้ ซึ่งเข้ามาควบคุมกิจการในสหรัฐอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2548 และรวมเข้ากับชื่อแบรนด์
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เซเว่น อีเลฟเว่น ได้พัฒนาเป็นแฟรนไชส์ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น โดยให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ในชีวิตประจำวันในราคาไม่แพง ตลอดจนบริการในท้องถิ่นและบริการจัดส่งด้วย