นางแคโรไลน์ เยป กรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิศวกรรมประยุกต์ของบริษัทกูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) เปิดเผยว่า สิงคโปร์มีศักยภาพที่สูงมากพอที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้าน AI ของโลก โดยได้แรงหนุนจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการผลักดันด้านนวัตกรรม
"การจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้าน AI ได้นั้น คุณจำเป็นต้องมีความร่วมมือที่แข็งแกร่งของภาครัฐและเอกชน เมื่อคุณมีความร่วมมือที่ดีของทั้งสองภาคส่วนนี้ คุณไม่เพียงแต่จะสามารถปรับปรุงการทำงานของภาครัฐ เช่น การให้บริการแก่ประชาชน แต่คุณยังสามารถผลักดันสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการสร้างนวัตกรรมพร้อมกันไปด้วย" นางเยปให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีนอกรอบการประชุม Explore AI Summit ซึ่งจัดโดยกูเกิลคลาวด์ และรัฐบาลสิงคโปร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโซลูชัน AI แบบรู้สร้าง (Generative AI) จากองค์กรต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในโครงการ "AI Trailblazers" หรือผู้บุกเบิก AI
ทั้งนี้ "AI Trailblazers" เป็นโครงการริเริ่มที่มีการประกาศครั้งแรกในเดือนก.ค. 2566 โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของสิงคโปร์, สำนักงานอุตสาหกรรมดิจิทัลแห่งสิงคโปร์, สำนักงานฝ่ายกิจการดิจิทัลของรัฐบาลสิงคโปร์ และกูเกิลคลาวด์
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่วางแผนการใช้ AI และในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สิงคโปร์ได้เปิดตัวยุทธศาสตร์" National AI Strategy 2.0" ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเดตของแผนการขยายขอบข่ายการใช้ AI
ภายใต้โครงการ AI Trailblazers นั้น สิงคโปร์ได้กำหนดขอบข่าย (sandbox) สองรูปแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับองค์กรต่าง ๆ จำนวนมากกว่า 100 องค์กรในสิงคโปร์ ให้สามารถเข้าถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกที่ทันสมัยของกูเกิลคลาวด์ รวมทั้งแพลตฟอร์ม Vertex AI และเครื่องมือการพัฒนาที่มีการตั้งรหัสที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถสร้างและทดสอบโซลูชัน Generative AI ของตนเองในสภาพแวดล้อมที่ตั้งอยู่บนระบบคลาวด์และสามารถควบคุมได้