ดิสนีย์รายงานกำไรหลังการปรับแก้ไขแล้วอยู่ที่ 1.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในไตรมาส 1/2567 เทียบกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) ซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ที่ 99 เซนต์
ขณะที่รายได้อยู่ที่ 2.355 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 2.364 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดิสนีย์ระบุว่า บริษัทตั้งเป้าลดต้นทุนให้ได้อย่างน้อย 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีงบการเงิน 2567 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสามารถลดต้นทุนได้ตามเป้าหมายหรือสูงกว่าเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทยังคาดการณ์ว่าผลกำไรต่อหุ้นสำหรับปีงบการเงิน 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 4.60 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเมื่อปี 2566 อย่างน้อย 20%
ขณะเดียวกัน ดิสนีย์ยังประกาศว่าจะเข้าถือหุ้นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัท อีพิก เกมส์ (Epic Games) ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเกมออนไลน์สุดฮิตอย่างฟอร์ทไนท์ (Fortnite) ขณะที่อีเอสพีเอ็น (ESPN) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือจะเปิดบริการสตรีมมิงในฤดูใบไม้ร่วงปี 2568
การประกาศต่าง ๆ และความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนลดต้นทุนธุรกิจ เกิดขึ้นหลังจากที่นายเนลสัน เพลท์ซ ซึ่งเป็นนักลงทุนประเภทนักเคลื่อนไหว (Activist Investor) ได้กดดันให้ดิสนีย์ปรับปรุงผลประกอบการให้ดีขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จำนวนสมาชิกที่ใช้บริการสตรีมมิงดิสนีย์พลัส (Disney+) ลดลง 1.3 ล้านรายในไตรมาส 1/2567 จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการปรับขึ้นราคาค่าบริการ แต่รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับขึ้นราคาค่าบริการ
เมื่อวันอังคาร (6 ก.พ.) ดิสนีย์เพิ่งประกาศว่าจะเปิดตัวบริการสตรีมมิงกีฬาใหม่ภายใต้ความร่วมมือระหว่างอีเอสพีเอ็น, ฟ็อกซ์ และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ภายในปีนี้
ทั้งนี้ หุ้นดิสนีย์ปรับตัวขึ้นประมาณ 7% ในการซื้อขายหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเมื่อวานนี้