นายเอเดรียม ออร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ได้แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า นิวซีแลนด์ยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คณะกรรมการ RBNZ ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
นายออร์เปิดเผยกับรัฐสภานิวซีแลนด์ว่า "อัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 4.7% ในปัจจุบันนั้น ถือเป็นระดับที่สูงเกินไป และคณะกรรมการ RBNZมีเป้าหมายที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับ 2%"
"อัตราเงินเฟ้อที่สูงมากเช่นนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ RBNZ ต้องดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 5.5% ส่วนในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ คณะกรรมการ RBNZ จะทำการทบทวนมุมมองที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ" นายออร์กล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 คณะกรรมการ RBNZ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 4 ครั้งติดต่อกัน แต่ RBNZ ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปี 2567
คณะกรรมการ RBNZ ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในวันดังกล่าวว่า "อัตราเงินเฟ้อของนิวซีแลนด์อยู่ในระดับสูงเกินไป และคณะกรรมการ RBNZ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยเรามองว่าอัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องอยู่ในระดับที่คุมเข้มต่อไปอีกระยะหนึ่ง"
การแสดงความเห็นดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของนิวซีแลนด์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในปี 2567 และมีโอกาสมากขึ้นว่า RBNZ จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2568