MSCI ได้ถอดหุ้นบริษัทจีนจำนวนมากออกจากดัชนี MSCI ระดับโลก หลังจากการทรุดตัวของตลาดหุ้นจีนทำให้มูลค่าตลาดหายไปหลายล้านล้านดอลลาร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการทบทวนประจำเดือนก.พ. MSCI ได้ถอดหุ้นบริษัทจีนจำนวน 66 แห่งออกจากดัชนี MSCI China Index และดัชนี MSCI All Country World Index ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบอย่างน้อย 2 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อตลาดหุ้นจีนปิดทำการซื้อขายในวันที่ 29 ก.พ.
หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนีดังกล่าวรวมถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย เช่น เจมเดล คอร์ป (Gemdale Corp), กรีนทาวน์ ไชน่า โฮลดิงส์ (Greentown China Holdings), ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ (China Southern Airlines) และผิงอัน เฮลท์แคร์ แอนด์ เทคโนโลยี (Ping An Healthcare and Technology)
ทั้งนี้ การถอดบริษัทหุ้นจีนจำนวนมากออกจากดัชนีของ MSCI ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับตลาดหุ้นจีน เนื่องจากกองทุนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนี MSCI จะถอดหุ้นของบริษัทเหล่านี้ออกจากพอร์ตโฟลิโอ โดยข้อมูลจากบลูมเบิร์กระบุว่ามีกองทุน ETF มูลค่าอย่างน้อย 5.9 พันล้านดอลลาร์ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนี MSCI China Index ซึ่งกองทุนที่ใหญ่ที่สุดคือกองทุนรวม iShares MSCI China Exchange Traded Fund ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุน ETF บริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ
ไคล์ รอดดา นักวิเคราะห์ด้านตลาดจากบริษัท Capital.Com กล่าวว่า "การที่บริษัทจีนถูกถอดออกจากดัชนี MSCI สะท้อนให้เห็นว่าตลาดหุ้นจีนจะเผชิญกับกระแสเงินทุนไหลออก เนื่องจากนักลงทุนจะลดการลงทุนในตลาดหุ้นจีน โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงิน, ความไม่แน่นอนด้านการกำกับดูแล และเหนือสิ่งอื่นใดคือ จีนกลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยง"