บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งเหนือระดับ 51,700 ดอลลาร์ หรือราว 1,870,000 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในการซื้อขายวันนี้
ณ เวลา 18.57 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 4.59% สู่ระดับ 51,703.50 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 21% นับตั้งแต่ต้นปี 2567 ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ทั้งหมดพุ่งทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ในปีนี้ รวมทั้งการที่สหรัฐให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF
ทั้งนี้ Bitcoin Halving คือ เหตุการณ์การแบ่งครึ่งบล็อกของบิตคอยน์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุก 4 ปี ด้วยการลดอัตราการสร้างบิตคอยน์ใหม่ลงครึ่งหนึ่ง ขณะที่ลดรางวัลที่จะมอบให้กับนักขุดบิตคอยน์ เพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานของบิตคอยน์ในตลาด
Bitcoin Halving ได้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่เกิดขึ้นก็ได้เป็นปัจจัยหนุนให้บิตคอยน์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่
Bitcoin Halving เกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนพ.ย.2555 และเพียง 1 ปีหลังจากนั้น บิตคอยน์ได้ดีดตัวสู่ระดับ 1,152 ดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2556
ส่วน Bitcoin Halving รอบที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนก.ค.2559 และเพียง 1 ปีหลังจากนั้น บิตคอยน์ได้ดีดตัวสู่ระดับ 17,760 ดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2560
Bitcoin Halving รอบที่ 3 เกิดขึ้นในเดือนพ.ค.2563 และส่งผลให้บิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะเดียวกัน Bitcoin Halving รอบที่ 4 จะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.2567 และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ภายในเวลา 1 ปีและ 5 เดือนหลังจากนี้
บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ซึ่งทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่บิตคอยน์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระแสเงินทุนราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ได้หลั่งไหลเข้าสู่ Spot Bitcoin ETF และหากนับตั้งแต่เปิดตัวกองทุนดังกล่าว พบว่ามีเม็ดเงินไหลเข้ามากถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าบิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จะดึงดูดให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และจะทำให้มีเม็ดเงินราว 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่บิตคอยน์ในปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568
หากคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง บิตคอยน์จะทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ที่ระดับ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีที่แล้ว โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%