นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีแนวโน้มที่จะรักษาสถานะเงินสดในระบบการเงินและนโยบายการเงินให้มีเสถียรภาพเป็นวงกว้าง ในขณะที่ PBOC กำลังจับตาเงินหยวนที่อ่อนค่าลงในขณะนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ทำการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า PBOC จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนเอาไว้ที่ระดับ 2.5% อย่างเร็วที่สุดในวันอาทิตย์นี้ (18 ก.พ.) และคาดว่า PBOC จะยังคงดำเนินการจัดหาสภาพคล่องในวันทำการวันแรกหลังจากเทศกาลตรุษจีนสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์นี้
ในขณะที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ทางการจีนดำเนินการมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนทรุดตัวลงรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 นั้น ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเงินหยวนกำลังสร้างแรงกดดันต่อ PBOC เช่นกัน
เมื่อเดือนที่แล้ว PBOC ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ต่างก็คาดหวังว่า PBOC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLF เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา PBOC ได้ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอีกหลายมาตรการที่ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
เบคกี หลิว หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านเศรษฐกิจมหภาคของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า "เรามองว่าการที่ PBOC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLF หลังจากที่ปรับลด RRR ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น อาจจะเป็นการเร่งรีบมากเกินไป การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อาจจะส่งผลกระทบในวงจำกัด แต่ก็จะสร้างผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อเงินหยวน ดังนั้น ความเสี่ยงเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการปรับลดดอกเบี้ย MLF อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ PBOC ต้องการนัก"
เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา PBOC มีมติคงอัตราดอกเบี้ย MLF ที่ระดับ 2.5% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.10% สู่ระดับ 2.40% เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดและกระตุ้นการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ