รัฐบาลอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (20 ก.พ.) ว่า ติ๊กต๊อก (TikTok) แอปวิดีโอสั้นจากจีน ยังคงละเมิดคำสั่งห้ามให้มีการทำธุรกรรมภายในแอป โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ติ๊กต๊อกเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของอินโดนีเซียอย่างโทโกพีเดีย (Tokopedia)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ติ๊กต๊อกถูกบังคับให้ปิดบริการอีคอมเมิร์ซ "ติ๊กต๊อก ช็อป" (TikTok Shop) ในอินโดนีเซีย หลังจากที่รัฐบาลสั่งแบนการช็อปปิ้งออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเมื่อปีที่แล้ว โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือร้านค้าขนาดเล็กและปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งาน
อย่างไรก็ตาม นายเตเตน มาสดูกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของอินโดนีเซีย ผู้ออกตัวต่อต้านติ๊กต๊อก ช็อป มาก่อนจะมีการแบนเมื่อปีที่แล้ว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าติ๊กต๊อกยังคงไม่ปฏิบัติตามกฎข้อห้ามดังกล่าว
"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต้องว่ากล่าวตักเตือนติ๊กต๊อกให้ทำตามกฎระเบียบ ไม่อย่างนั้นอำนาจของรัฐบาลก็จะถูกบ่อนทำลาย" นายมาสดูกีกล่าว
ด้านกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะตอบสนองต่อปัญหานี้อย่างไรให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ โกโต (GoTo) เครือบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอินโดนีเซียกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ติ๊กต๊อก ซึ่งเป็นของบริษัทไบต์แดนซ์จากจีน ซื้อหุ้นโทโกพีเดีย 75.01% ในราคา 840 ล้านดอลลาร์ ตามดีลที่ตกลงกันตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566