นายมานูเอล อดอร์นี โฆษกประจำตัวประธานาธิบดีอาร์เจนตินา เปิดเผยเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ว่า รัฐบาลอาร์เจนตินาได้เสนอให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 30% ภายในเดือนมีนาคม หลังจากที่กลุ่มสหภาพและนายจ้างได้เจรจาแต่หาข้อตกลงกันไม่ได้
โฆษกประจำตัวประธานาธิบดีอาร์เจนตินา แถลงต่อสื่อมวลชนที่กรุงบัวโนสไอเรสว่า "เป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้งสองฝ่ายจะหาทางตกลงกันได้อย่างประสบผลสำเร็จ ... เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว รัฐบาลก็ควรเข้ามาตัดสินให้ระหว่างทั้งสองฝ่าย และกำหนดค่าแรงขั้นต่ำขึ้นมา"
การเสนอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 รอบด้วยกัน รอบแรกเสนอให้ขึ้นค่าแรง 15% ในเดือนก.พ. จากเดิมเดือนละ 156,000 เปโซ (ประมาณ 6,670 บาท) เป็น 180,000 เปโซ (ราว 7,700 บาท) และขึ้นเป็น 202,800 เปโซ (ราว 8,660 บาท) ในเดือนมี.ค. โดยเมื่อรวมกันแล้วเท่ากับว่าเพิ่มขึ้นรวมกัน 30%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังสภาเงินเดือน (Salary Council) ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากองค์กรนายจ้างและสหภาพแรงงานหลายแห่งได้ประชุมร่วมกัน แต่ตกลงเรื่องค่าจ้างไม่ได้ โดยทางสหภาพเรียกร้องให้นายจ้างขึ้นเงินเดือน 85% เนื่องจากอาร์เจนตินาเงินเฟ้อสูงมาก โดยเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเงินเฟ้อทะลุหลัก 45% แล้ว
ครั้งล่าสุดที่ทางสภาเงินเดือนตกลงเรื่องค่าจ้างกันได้คือเมื่อเดือนก.ย. 2566 ซึ่งกำหนดค่าแรงขึ้นต่ำไว้ที่ 156,000 เปโซ จนถึงเดือนธ.ค. 2566