อินวิเดียระบุว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 5.16 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.64 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 2.210 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.062 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลประกอบการของอินวิเดียได้รับแรงหนุนจากกระแสความนิยมในชิปที่ใช้กับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นบนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของอินวิเดียที่ใช้สำหรับเซิร์ฟเวอร์
เจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของอินวิเดียกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้นักลงทุนมีความกังวลว่าอินวิเดียอาจจะไม่สามารถรักษาการเติบโตของรายได้หรือยอดขายตลอดทั้งปีเอาไว้ได้ แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว เรามั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และหลังจากนั้น และคาดว่าความต้องการ GPU ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูง"
อินวิเดียระบุว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 1.229 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 769% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 1.41 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้โดยรวมพุ่งขึ้น 265% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้แรงหนุนจากยอดขายชิป AI สำหรับใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิป "Hopper" เช่น H100
นอกจากนี้ อินวิเดียคาดการณ์ว่า ยอดขายในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2568 จะอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.217 หมื่นล้านดอลลาร์