ราคาหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเซมิคอนดักเตอร์พุ่งทะยานขึ้นในวงกว้าง หลังบริษัท อินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 ในวันพุธ (21 ก.พ.) พร้อมคาดการณ์ว่า ผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 และหลังจากนั้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลขั้นสูงรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน พุ่งขึ้นสูงสุด 2.05% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.พ.) โดย TSMC เป็นบริษัทรับจ้างผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ผลิตหน่วยประมวลผลขั้นสูงให้กับบริษัทต่าง ๆ เช่น อินวิเดียและแอปเปิ้ล ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone
หุ้นบริษัท ซูเปอร์ ไมโคร คอมพิวเตอร์ (Super Micro Computer) ซัพพลายเออร์ส่วนประกอบเซิร์ฟเวอร์ พุ่งขึ้น 11.42% ในการซื้อขายหลังตลาดปิดทำการเมื่อวานนี้ ขณะที่ หุ้นเอเอสเอ็มแอล (ASML) บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่จากเนเธอร์แลนด์และจัดหาเครื่องลิโทกราฟีที่มีความสำคัญต่อการผลิตชิปให้ TSMC ปรับตัวขึ้น 2.7% ในการซื้อขายหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปิดทำการ
ส่วนหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (Advanced Micro Devices) และอาร์ม โฮลดิงส์ (Arm Holdings) บริษัทผู้ออกแบบชิปจากอังกฤษในเครือซอฟต์แบงก์ พุ่งขึ้น 4.08% และ 7.87% ตามลำดับ ในการซื้อขายหลังตลาดปิดทำการ
ขณะเดียวกัน หุ้นซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำของเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 0.41% และ 3.22% ตามลำดับในวันนี้ โดยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) พึ่งพาชิปความจำประสิทธิภาพสูงในการจดจำรายละเอียดการสนทนาในอดีตและความชอบของผู้ใช้งานเพื่อสร้างคำตอบเสมือนมนุษย์
บริษัทเซมิคอนดักเตอร์อื่น ๆ จากไต้หวัน ได้แก่ โอเรียนต์ เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (Orient Semiconductor Electronics) และมีเดียเทค (MediaTek) ปรับตัวขึ้น 2.94% และ 1.53% ตามลำดับในวันนี้
หุ้นอินเทล (Intel), บรอดคอม (Broadcom) และควอลคอมม์ (Qualcomm) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปจากสหรัฐ ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายหลังตลาดปิดทำการในวันพุธ โดยพุ่งขึ้น 1.38%, 2.79% และ 1.80% ตามลำดับ