เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์คาดการณ์ว่า เงินริงกิตของมาเลเซียจะแข็งค่าขึ้น 9% ภายในสิ้นปีนี้ และระบุว่าการอ่อนค่าของริงกิตจะไม่ส่งผลให้อันดับความน่าเชื่อถือของมาเลเซียมีความเสี่ยง
ยีฟาร์น ฟัว นักวิเคราะห์ของ S&P ในประเทศสิงคโปร์กล่าวว่า "เราไม่คิดว่าการอ่อนค่าของริงกิตจะทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของมาเลเซียเผชิญกับความเสี่ยง สถานะในต่างประเทศของมาเลเซียยังคงแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่มีมากเพียงพอ และดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังคงอยู่ในระดับเกินดุล"
ริงกิตอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของมาเลเซีย ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ริงกิตมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของ S&P คาดการณ์ว่า ริงกิตซึ่งมีการซื้อขายที่ระดับ 4.79 ริงกิตต่อดอลลาร์ในวันนี้ (22 ก.พ.) มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.40 ริงกิตต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.30 ริงกิตต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2568
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความเห็นของ S&P เป็นไปในทิศทางเดียวกับมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสซึ่งระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือของมาเลเซียมีความปลอดภัยแม้ริงกิตอ่อนค่าลงก็ตาม เนื่องจากหนี้สินเกือบทั้งหมดในมาเลเซียอยู่ในรูปสกุลเงินริงกิต ขณะเดียวกัน S&P ประมาณการว่า หนี้ต่างประเทศของรัฐบาลมาเลเซียอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านริงกิต (6.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งต่ำกว่า 3% ของหนี้สินโดยรวม
ทั้งนี้ S&P จัดอันดับความน่าเชื่อถือของมาเลเซียที่ A- นับตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมาเลเซียมีความสามารถในการชำระหนี้ โดยอันดับความน่าเชื่อถือที่ A- ถือเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้