ราคาหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของอินวิเดียพุ่งขึ้นแซงหน้ามาร์เก็ตแคปของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาหุ้นอินวิเดียปิดตลาดพุ่งขึ้น 16.40% ในวันดังกล่าว ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของอินวิเดียเพิ่มขึ้น 2.77 แสนล้านดอลลาร์ แตะระดับเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งแซงหน้ามาร์เก็ตแคปของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.97 แสนล้านดอลลาร์เมื่อต้นเดือนก.พ.
ทั้งนี้ หุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 5.16 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.64 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 2.210 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.062 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลประกอบการของอินวิเดียได้รับแรงหนุนจากกระแสความนิยมในชิปที่ใช้กับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นบนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของอินวิเดียที่ใช้สำหรับเซิร์ฟเวอร์
เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดียได้แสดงความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และหลังจากนั้น และคาดว่าความต้องการหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอินวิเดียคาดว่ายอดขายในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2568 จะอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.217 หมื่นล้านดอลลาร์