วินฟาสต์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของเวียดนาม เปิดเผยเมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ว่า บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นอีก 3.4% ในไตรมาส 4/2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แตะ 650.1 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายขึ้นเป็น 3 เท่าตัวในปีนี้ ขณะที่บริษัทกำลังขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 แล้ว วินฟาสต์ยังขาดทุนเพิ่มขึ้น 1.3% ด้วย
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของแอลเอสอีจี (LSEG) ระบุว่า รายได้ในไตรมาส 4/2566 ของวินฟาสต์อยู่ที่ 437 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 570.9 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้ตลอดทั้งปีปรับตัวขึ้น 91% สู่ระดับ 1.2 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า วินฟาสต์มีแผนจะเพิ่มการส่งมอบรถยนต์สู่ระดับ 100,000 คันในปีนี้ เมื่อเทียบกับระดับเกือบ 35,000 คันในปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่บริษัททำยอดจัดส่งได้ต่ำกว่าเป้า เพราะบางภูมิภาคเปิดรับรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่มากพอ และหลายบริษัทตัดราคาแข่งกัน
นางเล ถิ ทู ถวี ซีอีโอของวินฟาสต์ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์หลังเปิดเผยรายได้ว่า "ปีนี้ เราได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกและมียานพาหนะทุกแบบ รวมถึงแบบพวงมาลัยขวา ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายของเราได้"
ในทางกลับกัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและแผนการลงทุน เนื่องจากดีมานด์ในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐที่ซบเซาลง
ทั้งนี้ วินฟาสต์พึ่งพาดีมานด์ในเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ โดยยอดส่งมอบราว 70% มีความเกี่ยวข้องกับกรีนเอสเอ็ม (GSM) ซึ่งเป็นบริการแท็กซี่ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายฝ่าม เหยิด เหวื่อง ผู้ก่อตั้งวินกรุ๊ป
นางถวีระบุว่า มีรถยนต์ที่จำหน่ายในอเมริกาเหนือเพียงไม่ถึง 1,000 คัน และเสริมว่า การขายผ่านตัวแทนจำหน่ายน่าจะช่วยผลักดันยอดขายของวินฟาสต์ในปีนี้ให้มากขึ้น เมื่อเทียบกับการจำหน่ายโดยตรง