หนังสือพิมพ์เดอะสเตรตส์ไทมส์ (The Straits Times) รายงานว่า หุ้นของแกร็บ โฮลดิงส์ (Grab Holdings) ร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 9 เดือนหลังจากที่แกร็บคาดการณ์รายได้ในปี 2567 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าธุรกิจหลักของแกร็บชะลอตัวเกินคาด
แกร็บคาดการณ์ว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 14-17% แตะ 2.7-2.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้โดยเฉลี่ยที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้แกร็บจะมีแผนที่จะเริ่มซื้อคืนหุ้นสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน แต่การคาดการณ์รายได้ที่น้อยกว่าที่คาดหวังนั้นส่งผลให้หุ้นแกร็บในนิวยอร์กลดลง 8.4% ถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2566
แกร็บได้รุกลงทุนมานานหลายปีเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและต่อสู้กับคู่แข่ง ทำให้ปัจจุบันบริษัทส่งสัญญาณมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ผลกำไรหลังจากการขยายตลาดอย่างรวดเร็วในมาเลเซียและไทย นอกจากนี้ แกร็บได้ใช้มาตรการลดต้นทุน เช่น การลดตำแหน่งงาน และควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อมุ่งไปสู่ความสามารถในการทำกำไรด้วยเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสอดคล้องกับการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตอกย้ำถึงผลกระทบของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความกดดันทางการแข่งขัน