นายยาเซอร์ อัล-รูมัยยาน ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่า ได้เสนอให้ซาอุดีอาระเบียเป็นศูนย์กลางสำหรับการดำเนินงานด้านปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) นอกเหนือจากสหรัฐ โดยชี้ถึงพลังงานสำรองและความสามารถของประเทศในจัดหาเงินทุน ซึ่งเป็นศักยภาพที่พร้อมสำหรับการเป็นศูนย์กลาง
"เราอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างดีสำหรับการเป็นศูนย์กลางเอไอ" นายอัล-รูมัยยาน กล่าวในงานการลงทุนที่เมืองไมอามีของสหรัฐ ซึ่งจัดโดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย
"เอไอต้องการพลังงานจำนวนมาก และเราเป็นผู้นำระดับโลกทั้งในด้านพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลและพลังงานหมุนเวียน" นายอัล-รูมัยยาน กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าในฐานะผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ซาอุดีอาระเบียมีเจตจำนงทางการเมือง ที่สามารถทำให้โครงการเอไอเกิดขึ้นได้ และมีเงินทุนมากเพียงพอสำหรับใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาโครงการเอไอ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นของนายอัล-รูมัยยาน ชี้ให้เห็นว่าศูนย์ข้อมูลอาจเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อใช้ประโยชน์จากอุปสงค์ปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้างนั้นจำเป็นต้องอาศัยพลังการประมวลผลจำนวนมหาศาล
เทคโนโลยีเอไอใช้คลัสเตอร์ชิปหลายพันชิ้นในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อฝึกฝนอัลกอริทึมสำหรับการทำงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่บรรดาบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ต้องเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นมาก ในขณะที่พวกเขาแข่งขันกันเพื่อพัฒนาเอไอที่ซับซ้อนมากขึ้น และแข่งขันกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ผู้ใช้หลายพันล้านคน
นายอัล-รูมัยยาน กล่าวว่า กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย วางแผนจะจัดสรรเงินทุนมากกว่า 70% ให้กับโครงการและการลงทุนภายในซาอุดีอาระเบีย ส่วนเป้าหมายการจัดสรรเงินทุนระหว่างประเทศอยู่ที่ 20-25% ในอนาตคต นอกจากนี้ ประมาณ 40% ของการลงทุนระหว่างประเทศอยู่ในสหรัฐ
ในปัจจุบัน กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบียได้ใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2568-2573