ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) ของอังกฤษรายงานในวันนี้ (23 ก.พ.) ว่า กำไรก่อนหักภาษีสำหรับปี 2566 พุ่งขึ้น 18% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และจะตอบแทนผู้ถือหุ้นด้วยการซื้อหุ้นคืน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สแตนชาร์ต ซึ่งมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากเอเชีย ระบุว่ากำไรก่อนหักภาษีสำหรับปี 2566 แตะ 5.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์ 15 รายคาดการณ์โดยเฉลี่ยว่าจะอยู่ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารขาดทุน 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับผลกระทบการถือหุ้นในธนาคารโบไห่ แบงก์ (Bohai Bank) ของจีน ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองแล้วที่สแตนชาร์ตต้องลดมูลค่าการลงทุนลง เนื่องจากโป๋ไห่ แบงก์ (Bohai Bank) ได้รับผลกระทบจากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว
การขาดทุนจำนวนมากนี้ในจีน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักสำหรับกลยุทธ์ของสแตนชาร์ต ตอกย้ำถึงความท้าทายที่ธนาคารต้องเผชิญในการขยายธุรกิจในจีน เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายยังไม่สามารถจัดการกับวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ
สแตนชาร์ตลดมูลค่าการถือหุ้นในโป๋ไห่ แบงก์ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกเหนือจากการขาดทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งส่งผลให้มูลค่ารวมของการลงทุนลดลงแตะ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี
สแตนชาร์ตระบุว่า การลดลงของมูลค่าการถือหุ้นในปัจจุบันนั้นเป็นผลมาจากความท้าทายในอุตสาหกรรมการธนาคารและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน
นอกจากนี้ สแตนชาร์ตยังประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งสุดท้ายจำนวน 560 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 21 เซนต์ต่อหุ้น ส่งผลให้การจ่ายเงินปันผลทั้งปีเพิ่มขึ้น 50% เป็น 27 เซนต์ ซึ่งมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 23.7 เซนต์