แอสตัน มาร์ติน (Aston Martin) แบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษ รายงานผลขาดทุนในปี 2566 ลดลงมากกว่าครึ่ง ซึ่งถือเป็นการขาดทุนต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากที่บริษัทขายรถยนต์ในราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวมถึงรุ่นวัลคีรี (Valkyrie) และรุ่นพิเศษอื่น ๆ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอสตัน มาร์ตินเผชิญกับความท้าทายและช่วงเวลาที่ยากลำบาก นับตั้งแต่จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเมื่อปี 2561
แอสตัน มาร์ตินรายงานผลขาดทุนก่อนหักภาษีที่ปรับปรุงแล้ว ที่ระดับ 171.8 ล้านปอนด์ (217.36 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับรอบปีที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 ซึ่งน้อยกว่าระดับ 451 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทตัดสินใจคงการคาดการณ์สำหรับระยะสั้นและระยะกลางไว้เท่าเดิม
ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์โดยเฉลี่ยว่า ผลขาดทุนก่อนหักภาษีจะอยู่ที่ 209 ล้านปอนด์
ทั้งนี้ นายลอว์เรนซ์ สตรอลล์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และประธานบริหารของแอสตันมาร์ติน ได้พยายามดำเนินการเพิ่มรายได้และผลกำไรของบริษัท ด้วยการเปิดตัวรถรุ่น แวนเทจ (Vantage) ซึ่งเป็นรถสปอร์ตเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ในช่วงต้นเดือนนี้