สโนว์เฟลก (Snowflake) บริษัทให้บริการจัดเก็บข้อมูลระบบคลาวด์ของสหรัฐ ประกาศเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) ว่า นายแฟรงค์ สลูตแมน ซีอีโอของบริษัท กำลังจะเกษียณ และนายศรีธาร์ รามาสวามี อดีตหัวหน้าฝ่ายโฆษณาของกูเกิลจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นสโนว์เฟลกร่วงลง 24% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังจากมีรายงานข่าวดังกล่าว
นายสลูตแมน วัย 65 ปี คือมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอของสโนว์เฟลกในปี 2562 และนำบริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2563 โดยก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกับสโนว์เฟลกนั้น นายสลูตแมนมีประสบการณ์โชกโชนในการบริหารบริษัทเทคโนโลยี โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอของดาต้า โดเมน (Data Domain) และเซอร์วิสนาว (ServiceNow)
อย่างไรก็ตาม สโนว์เฟลกคือความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ซึ่งภายใต้การบริหารของนายสลูตแมนนั้น สโนว์เฟลกจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2563 ทำให้สโนว์เฟลกกลายเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ที่เสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา และหุ้นของบริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากช่วงเปิดตัวครั้งแรก
แม้นายสลูตแมนจะลงจากตำแหน่งซีอีโอแล้ว แต่จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารของสโนว์เฟลกต่อไป
ทางด้านนายรามาสวามี วัย 57 ปี เคยทำงานร่วมกับกูเกิลมาเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายธุรกิจโฆษณาและการค้าจนถึงปี 2561 ก่อนจะออกจากกูเกิลมาร่วมก่อตั้งนีวา (Neeva) ในปี 2562 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เครื่องมือค้นหาสำหรับผู้บริโภคซึ่งนายรามาสวามีตั้งเป้าว่าจะสามารถแข่งขันกับกูเกิล อย่างไรก็ตาม เขาได้ประกาศว่าบริษัทได้ปิดตัวผลิตภัณฑ์ ในปี 2566
ในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ สโนว์เฟลกระบุว่าได้เข้าซื้อกิจการนีวาเมื่อเดือนมิ.ย. 2566 ในมูลค่า 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
"ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าคุณศรีธาร์ในการนำสโนว์เฟลกไปสู่การเติบโตขั้นต่อไป และคว้าโอกาสในอนาคตในด้านเอไอและการเรียนรู้ของเครื่อง ... เขามีวิสัยทัศน์ในด้านเทคโนโลยีและมีประสบการณ์ทำงานที่แข็งแกร่งในการจัดการและการขยายธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ" นายสลูตแมน ระบุในแถลงการณ์
นอกเหนือจากการประกาศการเปลี่ยนแปลงซีอีโอคนใหม่แล้ว สโนว์เฟลกยังได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ด้วย โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 774.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 738.1 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อนหน้า
ผลขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 275.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากระดับ 239.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ข้อมูลจากสตรีทแอคเคาท์ ระบุว่า สโนว์เฟลกคาดการณ์ว่ารายได้จากผลิตภัณฑ์ในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ระหว่าง 745-750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 759 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้แล้ว สโนว์เฟลกยังคาดการณ์ว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 3% ในขณะที่นักวิเคราะห์ประมาณการว่าจะอยู่ที่ระดับ 7.2%