สำนักงานบริการทางการเงินของนิวยอร์ก (NYDFS) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน เปิดเผยเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ว่า บริษัทคริปโทเคอร์เรนซี เจมิไน (Gemini) จะคืนเงินอย่างน้อย 1.1 พันล้านดอลลาร์ ให้แก่ลูกค้าในโครงการสินเชื่อที่ล้มเลิกไปแล้ว และชำระค่าปรับ 37 ล้านดอลลาร์ฐานดำเนินการอย่างไม่ปลอดภัยและไม่โปร่งใส
ยูเอสนิวส์รายงานว่า เอิร์นโปรแกรม (Earn program) ของเจมิไน ซึ่งเป็นโครงการที่ทำร่วมกับบริษัทผู้ให้สินเชื่อคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเจเนซิส โกลบอล แคปิตอล (Genesis Global Capital) ถูกระงับระหว่างที่ตลาดคริปโทฯ ย่ำแย่อย่างหนักในเดือนพ.ย. 2565 ซึ่งส่งผลให้เจเนซิสยื่นล้มละลาย และนำไปสู่การดำเนินคดีเป็นวงกว้างระหว่างเจเนซิส, เจมิไน และดิจิทัล เคอร์เรนซี กรุ๊ป (DCG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเจเนซิส
ข้อตกลงดังกล่าวหมายความว่า ลูกค้าในเอิร์นโปรแกรมของเจมิไน ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนในบัญชีของโครงการได้นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ใกล้จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเงินก้อนดังกล่าวอีกครั้ง
NYDFS เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการเพิ่มเติมต่อเจมิไน หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการคืนเงินจำนวนอย่างน้อย 1.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับลูกค้า ขณะเดียวกัน เจมิไนให้คำมั่นว่าจะมอบเงินจำนวน 40 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติกรณีการล้มละลายของเจเนซิส เพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าในเอิร์นโปรแกรมด้วย