เวนดีส์ (Wendy's) เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) ว่า บริษัทไม่มีแผนจะปรับขึ้นราคาเมนูในช่วงเวลาที่มีลูกค้ามากที่สุด หลังถูฏวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนบนสังคมออนไลน์ จากกรณีที่นายเคิร์ก แทนเนอร์ ซีอีโอของบริษัท ประกเศเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ.ว่าอาจเริ่มทดสอบการตั้งราคาแบบไดนามิก หรือการตั้งราคาตามระดับความต้องการของสินค้าในแต่ละช่วงเวลา
นายแทนเนอร์ กล่าวกับนักลงทุนว่า เวนดีส์อาจเริ่มทดลองฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นปี 2568 รวมถึงการตั้งราคาตามระดับความต้องการของสินค้า และข้อเสนอตตามช่วงเวลามื้ออาหารตั้งแต่มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การตั้งราคาแบบไดนามิกหมายถึง การกำหนดราคาตามอุปสงค์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีอุปสงค์สูงที่สุดของแต่ละวัน เช่นเดียวกับการตั้งราคาตั๋วเครื่องบิน หรือค่าโดยสารบริการรถแท็กซี่อูเบอร์ (Uber) ในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือช่วงที่มีผู้โดยสารกดจองมากที่สุด
ความเห็นของนายแทนเนอร์ก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักบนสังคมออนไลน์ในสัปดาห์นี้ โดยบางส่วนกล่าวว่าจะกักตุนมิลค์เชค "ฟรอสตี (Frosty)" ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเวนดีส์ไว้ในตู้แช่ตลอดฤดูร้อน เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้น ขณะที่นางเอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ โพสต์บนเอ็กซ์ (X) เมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) เป็นการโก่งราคาอย่างโจ่งแจ้งแบบซึ่ง ๆ หน้า
ด้านเวนดีส์ได้ออกมาแก้ข่าวในแถลงการณ์ถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า บริษัทจะไม่ปรับขึ้นราคาในช่วงที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากที่สุด นอกจากนี้แล้ว แผนการติดตั้งป้ายเมนูดิจิทัลในบางสาขาจะช่วยให้เวนดีส์เสนอส่วนลดให้แก่ลูกค้าได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีลูกค้าไม่มากนัก
นอกจากนี้ เวนดีส์ยังกล่าวอีกว่า ป้ายเมนูจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของเมนูที่อยู่บนหน้าจอแสดงผล พร้อมชี้แจงว่า ความคิดเห็นดังกล่าวในรายงานของสื่อถูกตีความไปในทางที่ผิดว่าบริษัทจะปรับราคาขึ้นในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูง โดยยืนยันว่าไม่มีแผนจะทำเช่นนั้น