ซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย พร้อมด้วยสมาชิกหลักรายอื่น ๆ ของกล่มโอเปกพลัส (OPEC+) จะขยายเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงด้วยความสมัครใจไปจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 2/2567
สำนักข่าวซาอุดีเพรสของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวทางการจากกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาการลดการผลิตน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 2 โดยการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียจะอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.
ด้านสำนักข่าวทาสส์ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานว่า นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียระบุว่า รัสเซียจะลดปริมาณการผลิตและการส่งออกน้ำมันลง 471,000 บาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. โดยก่อนหน้านี้รัสเซียอาสาจะลดปริมาณการผลิตมากกว่านี้เล็กน้อยที่ 500,000 บาร์เรลต่อวันในไตรมาสที่ 1
ตามข้อมูลจากสำนักข่าวไอเอ็นเอ (INA) ของอิรักและสำนักข่าวดับเบิลยูเอเอ็ม (WAM) ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบว่าอิรักและสหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์จะขยายเวลาการลดกำลังการผลิตต่อไปจนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 เช่นกัน โดยอิรักจะลดกำลังการผลิตลง 220,000 บาร์เรลต่อวันต่อไป ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะลดกำลังการผลิต 163,000 บาร์เรลต่อวัน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในเดือนพ.ย. 2566 กลุ่มประเทศ OPEC+ ได้ดำเนินนโยบายอย่างเป็นทางการในการลดกำลังการผลิตโดยรวมลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2567 นอกจากนี้ สมาชิก OPEC+ บางประเทศ เช่น ซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เลือกที่จะลดปริมาณการผลิตโดยรวม 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยสมัครใจจนถึงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปีนี้ โดยแยกจากกลยุทธ์อย่างเป็นทางการของกลุ่ม
การประกาศลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจครั้งล่าสุดเกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันยังคงซบเซา โดยมีความผันผวนในกรอบแคบที่ 75-85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา แม้ว่า OPEC+ จะลดการผลิตลง กลุ่มฮูตียังคงก่อเหตุโจมตีในทะเลแดงซึ่งเป็นเส้นทางเดือนเรือสำคัญอย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยเสี่ยงจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
รายงานระบุว่า ปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันในระยะสั้นคืออุปสงค์ที่ลดลงจากจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากใกล้จะถึงกำหนดการซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามฤดูกาล และโดยทั่วไปแล้ว จะมีการดำเนินการซ่อมบำรุงมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี
ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตลงโดยความสมัครใจแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ในระหว่างการประชุมอย่างเป็นทางการ และข้ามกระบวนการกระจายการปรับการผลิตให้กับสมาชิก OPEC+ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สมาชิก OPEC+ มักจะไม่โต้แย้งเรื่องการปรับลดการผลิตโดยความสมัครใจ ตราบใดที่การปรับลดดังกล่าวสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของนโยบายที่มีอยู่ และในปัจจุบัน การลดการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมนั้นสนับสนุนความพยายามเดิมของ OPEC+ ในการลดกำลังการผลิต
การเจรจาด้านนโยบายของกลุ่ม OPEC+ ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยผู้ให้บริการข้อมูลอิสระจากภายนอกจะเสร็จสิ้นการประเมินพื้นฐานกำลังการผลิตของสมาชิกกลุ่มแต่ละราย ซึ่งเป็นระดับที่กำหนดโควตาของแต่ละประเทศ โดยเส้นฐานที่สูงขึ้นนำไปสู่ขีดจำกัดผลผลิตที่สูงขึ้น ช่วยให้ประเทศผู้ผลิตได้รับประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีราคาสูง