ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) เปิดเผยในวันนี้ (4 มี.ค.) ว่า ทางธนาคารขาดทุนรายปีไปทั้งสิ้น 3.2 พันล้านฟรังก์สวิส (3.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2566 เนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้อัตราดอกเบี้ยเชิงบวกที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายมหาศาล
SNB ขาดทุน 8.5 พันล้านฟรังก์สวิสจากการทำธุรกรรมในสกุลเงินฟรังก์สวิส โดยมีสาเหตุหลักมาจากการจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากที่ถือข้ามคืนให้กับธนาคารพาณิชย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า SNB เปลี่ยนมาใช้อัตราดอกเบี้ยเชิงบวกเมื่อเดือนก.ย. 2565 เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ หลังใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบมาเป็นเวลานาน ทั้งยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน SNB กวาดกำไร 4 พันล้านฟรังก์สวิสจากการถือเงินตราประเทศ แม้ว่ารายได้และมูลค่าจากพอร์ตหุ้นและพันธบัตรจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการแข็งค่าของเงินฟรังก์สวิสในระหว่างปี