สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการศึกษาของ IW เผยแพร่ในวันนี้ (4 มี.ค.) ก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งไพรมารีในสหรัฐในวันซูเปอร์ทิวส์เดย์ (Super Tuesday) โดยการศึกษาดังกล่าววิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นหากนายทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทุกชนิดอีก 10% และเพิ่มเป็น 60% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน
ผลการศึกษาของ IW ระบุว่า ผลกระทบจากภาษีนี้จะทำให้ GDP ของสหรัฐลดลง 1-1.4% ชั่วคราวในช่วงปีแรก ๆ เนื่องจากราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคจะสูงขึ้นและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อการบริโภค รวมถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในระยะสั้น
อย่างไรก็ดี ดุลการค้าและดุลการคลังจะปรับตัวดีขึ้น ทำให้ GDP สหรัฐฟื้นตัวเป็นติดลบเพียงเล็กน้อยภายในปี 2571
ขณะเดียวกัน ยุโรป โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างเยอรมนี จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่ามาก โดยผลการศึกษาของ IW ระบุว่า GDP ของเยอรมนีจะลดลง 1.2% ภายในปี 2571 จากการส่งออกและการลงทุนในภาคเอกชนที่ลดลง และหากจีนตอบโต้สหรัฐด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 40 จุดเปอร์เซ็นต์ GDP เยอรมนีอาจลดลงถึง 1.4%
"EU ควรเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวในตอนนี้เลย และ EU ควรใช้ประโยชน์จากวาระการดำรงตำแหน่งที่เหลือของปธน.ไบเดนในการวางรากฐานความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐให้มั่นคงยิ่งขึ้น" IW เตือน
มาตรการที่ IW แนะนำรวมถึงการจัดตั้งสภาการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐ-EU การลงนามข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญ ๆ รวมทั้งการลงนามข้อตกลงการค้าเหล็กและอะลูมิเนียมสีเขียว
นอกจากนี้ EU ยังควรลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ออสเตรเลีย, กลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง (Mercosur), อินโดนีเซีย หรืออินเดีย
"ประการที่สอง หากทรัมป์ชนะเลือกตั้งแล้วขู่ว่าจะใช้มาตรการกีดกันทางการค้าใหม่ต่อ EU EU ก็ควรขู่กลับด้วยมาตรการตอบโต้ที่น่าเชื่อถือ" IW กล่าว