ผลสำรวจภาคเอกชนซึ่งจัดทำโดยไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยในวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า กิจกรรมภาคบริการของจีนขยายตัวในอัตราชะลอลงในเดือนก.พ. ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และบริษัทต่าง ๆ ลดจำนวนพนักงานลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน อยู่ที่ระดับ 52.5 ในเดือนก.พ. ลดลงจาก 52.7 ในเดือนม.ค. แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขจากไฉซินสวนทางกับผลสำรวจอย่างเป็นทางการที่รัฐบาลจีนเปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการของจีนขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการแสดงภาพที่ขัดแย้งเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคบริการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจจีน โดยทางการจีนกำลังพึ่งพาภาคบริการเพื่อชดเชยกับภาคการผลิตที่อ่อนแอ ในขณะที่พยายามพลิกฟื้นเศรษฐกิจท่ามกลางภาวะอุปสงค์โลกชะลอตัว
ผลสำรวจของไฉซินระบุว่า แม้กิจกรรมจะแข็งแกร่งในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน 8 วัน แต่อัตราการขยายตัวของธุรกิจใหม่ในเดือนก.พ. แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนม.ค.
ในแง่มุมเชิงบวกนั้น พบว่าอุปสงค์จากต่างชาติแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว โดยมีรายงานว่ายอดคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น
รายงานระบุว่า หนี้สินภาคธุรกิจลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และตัวเลขการจ้างงานในภาคบริการลดลงในเดือนก.พ. หลังขยายตัวเล็กน้อยในช่วง 2 เดือนก่อนหน้า