รายงานงบประมาณที่เผยแพร่โดยกระทรวงการคลังจีนในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันนี้ (5 มี.ค.) ระบุว่า จีนตั้งเป้าเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม 7.2% สู่ระดับ 1.67 ล้านล้านหยวนในปี 2567
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า การตั้งเป้าเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม 7.2% ในปี 2567 เกิดขึ้นหลังจากการเพิ่มงบกลาโหมมานานต่อเนื่องหลายปี โดยมีการเพิ่มงบกลาโหม 7.2% ในปี 2566, 7.1% ในปี 2565, 6.8% ในปี 2564, 6.6% ในปี 2563 และ 7.5% ในปี 2562
งบกลาโหมอย่างเป็นทางการของจีนสูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก โดยเป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แม้การประมาณการอย่างไม่เป็นทางการบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมที่แท้จริงของจีนอาจสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการก็ตาม
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การประกาศงบกลาโหมของจีนในปีนี้มีขึ้นหลังจากนายพลหลายรายของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนถูกปลดออกจากตำแหน่ง รวมถึงพล.อ.หลี่ ซ่างฝู อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งกวาดล้างการทุจริตในวงกว้างตลอดปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จีนยังคงอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนไต้หวัน โดยปธน.สี จิ้นผิง ระบุว่า การรวมชาติเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้านศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮกตัดสินในปี 2559 ว่าการที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่จำนวนมากของทะเลจีนใต้นั้นไม่สอดคล้องกับพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ แต่จีนไม่ยอมรับคำตัดสินดังกล่าว