บิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับ 69,210 ดอลลาร์ในวันนี้ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coin Metrics หรือมากกว่า 2,477,000 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยทำลายสถิติเดิมที่ทำไว้ที่ระดับ 68,982.20 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564
"การทำ All Time High ครั้งใหม่ในวันนี้เป็นการพิสูจน์ว่าบิตคอยน์ไม่เคยหายไปไหน ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์เคยทรุดตัวลงมากกว่า 75% จำนวน 4 ครั้ง แต่ทุกครั้งบิตคอยน์ก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้" นายอเล็กซ์ ธอร์น หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Galaxy Digital กล่าว
ส่วนนางคลารา เมดาลี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Kaiko กล่าวเช่นกันว่า "การทำสถิติใหม่ดังกล่าวถือเป็นการบรรลุหลักไมล์ที่สำคัญด้านจิตวิทยา และเป็นการแสดงถึงความสามารถของคริปโทในการดีดตัวขึ้นต่อไป แม้จะเผชิญอุปสรรคต่างๆ"
นักวิเคราะห์ระบุว่า บิตคอยน์ได้รับแรงหนุนจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การที่สหรัฐให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF, ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จะดึงดูดให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และจะทำให้มีเม็ดเงินราว 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่บิตคอยน์ในปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีที่แล้ว โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%