บรอดคอม (Broadcom) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ของปีการเงิน 2567 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากบรรดาผู้ให้บริการคลาวด์ยังคงอัปเกรดศูนย์ข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับ AI ส่งผลให้ชิปเครือข่ายขั้นสูงของบรอดคอมเป็นที่ต้องการมากขึ้น
อย่างไรก็ดี บรอดคอมยังคงตัวเลขคาดการณ์รายได้ต่อปีไว้ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามเดิม ซึ่งทำให้นักลงทุนค่อนข้างผิดหวัง ในขณะที่ฮ็อค ถัน ซีอีโอบรอดคอม กล่าวหลังเปิดเผยผลประกอบการบริษัทว่า รายได้ต่อปีของบริษัทเกือบหนึ่งในห้าคาดว่าจะมาจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)
รายได้จาก AI เพิ่มขึ้นสี่เท่าเมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 2.3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งช่วยชดเชยรายได้ที่ถดถอยจากภาคองค์กรและโทรคมนาคม
ส่วนรายได้จากภาคโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 4% แตะ 7.39 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขที่วิซิเบิล อัลฟา (Visible Alpha) คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 7.45 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นายถันเสริมว่า บรอดคอมคาดว่าจะทำรายได้เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์จาก AI ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2567
หุ้นของบรอดคอมพุ่งขึ้นมาแล้ว 26% ในปี 2567 โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกด้าน AI ซึ่งส่งผลให้เกิดความคาดหวังสำหรับการเติบโตของบริษัท แต่ขณะนี้หุ้นบรอดคอมลดลงไปกว่า 3.20% ในการซื้อขายหลังตลาดปิดทำการ เพราะนักลงทุนค่อนข้างผิดหวังกับการที่บรอดคอมยังคงตัวเลขคาดการณ์รายได้ไว้ตามเดิม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรอดคอม และมาร์เวลล์ เทคโนโลยี (Marvell Technology) บริษัทคู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่า ขายเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารที่รวดเร็วระหว่างคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์ โดยทั้งสองบริษัทถูกมองว่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการประมวลผล AI
อย่างไรก็ตาม มาร์เวลล์คาดการณ์ว่า รายได้จะต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง 7.74% ในการซื้อขายหลังปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ทั้งนี้ ก่อนเปิดเผยผลประกอบการ หุ้นบรอดคอมและมาร์เวลล์ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ซึ่งพุ่งทำนิวไฮในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา