บิตคอยน์ปรับตัวอย่างผันผวนในวันนี้ โดยพุ่งขึ้นเหนือระดับ 70,000 ดอลลาร์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนที่จะร่วงลงสู่ระดับราว 67,000 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งแตะ 70,170 ดอลลาร์ในวันนี้ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coin Metrics ขานรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ซึ่งระบุว่า อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อย่างไรก็ดี บิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับราว 67,000 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
นักวิเคราะห์ระบุว่า บิตคอยน์ได้รับแรงหนุนจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การที่สหรัฐให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF, ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จะดึงดูดให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และจะทำให้มีเม็ดเงินราว 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่บิตคอยน์ในปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีที่แล้ว โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%