ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ (8 มี.ค.) ว่า เขาจะลงนามในกฎหมายที่ให้เวลาบริษัทไบแนนซ์ของจีนเป็นเวลา 6 เดือนในการขายกิจการติ๊กต๊อกซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นยอดนิยม ในขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการสั่งระงับบริการของติ๊กต๊อกซึ่งมีชาวอเมริกันใช้งานอยู่ราว 170 ล้านคน
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนโหวตร่างกฎหมายแบนติ๊กต๊อกในวันอังคารหรือวันพุธหน้า หลังจากคณะกรรมการสภาอนุมัติมาตรการดังกล่าวอย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพฤหัสบดี
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านการอนุมัติหากได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 จากสส.สหรัฐ
ปธน.ไบเดนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "หากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติ ผมก็จะลงนาม"
อย่างไรก็ตาม ผลการโหวตในวุฒิสภานั้นไม่มีความแน่นอน เนื่องจากสว.บางคนต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย
ด้านนายทรัมป์จากพรรครีพับลิกันซึ่งกำลังหาทางกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.ปีนี้นั้นได้ แสดงท่าทีคัดค้านการแบนติ๊กต๊อก โดยระบุในโซเชียลมีเดียว่า "ถ้าคุณกำจัดติ๊กต๊อกออกไป เฟซบุ๊กก็จะหาเงินได้มากขึ้น" พร้อมกับระบุว่า เขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยวิพากษ์วิจารณ์เมตา แพลตฟอร์มส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กที่เพิกถอนเขาจากการเข้าใช้งานเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม หลังจากได้ทำการลบโพสต์ของเขา 2 โพสต์ในช่วงเกิดเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 และต่อมาบัญชีของเขาสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้งในเดือนก.พ. 2566