กระทรวงการคลังอิสราเอลเปิดเผยในวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในช่วง 12 เดือนซึ่งสิ้นสุดเดือนก.พ. (มี.ค. 2566 ถึง ก.พ. 2567) พุ่งสู่ระดับ 2.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 5.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
ยอดขาดดุลงบประมาณในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 18% เมื่อเทียบกับช่วง 12 เดือนก่อนหน้า (ก.พ. 2566 ถึง ม.ค. 2567) ซึ่งขาดดุลงบประมาณที่ 2.493 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.8% ของ GDP
กระทรวงการคลังอิสราเอลระบุว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับกลุ่มฮามาส ซึ่งอยู่ที่ 4.84 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 หลังจากที่เสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป 6.59 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โดยรวมแล้วการใช้จ่ายของรัฐบาลอิสราเอลเพิ่มขึ้นถึง 43.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2567 แต่รายได้รวมแทบไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงสองเดือนดังกล่าว
กระทรวงการคลังอิสราเอลคาดการณ์ว่ายอดขาดดุลจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะลดลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับกลุ่มฮามาส