ขณะที่อัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลงในหลาย ๆ ประเทศ นักลงทุนจึงจับตาดูการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในหลายประเทศในปีนี้
รายงานล่าสุดจากอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Economist Intelligence Unit หรือ EIU) บ่งชี้ว่า แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงในประเทศเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในปี 2567 แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงเล็กน้อยในช่วงปลายปีนี้ โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2565 ธนาคารกลางส่วนใหญ่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมากเพื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
EIU ระบุว่า จีนและญี่ปุ่นนั้นเป็นข้อยกเว้น โดยไม่ได้อยู่ในแนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก แม้อัตราดอกเบี้ยของจีนได้เริ่มปรับลดลงเล็กน้อยแล้วก็ตาม นอกจากนี้ EIU ยังคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในไตรมาส 2 ของปีนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวย้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงในปีนี้ หากเงินเฟ้อส่งสัญญาณลดลง อย่างไรก็ตาม นายพาวเวลไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่แน่ชัดว่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
อัตราเงินเฟ้อที่ประเมินโดยมาตรวัดของเฟดในปัจจุบันอยู่ที่ 2.4% ต่อปี ซึ่งยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% โดยเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25%-5.5% ในการประชุมเดือนม.ค. โดยตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนมิ.ย.นี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ECB ไม่มีแผนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนมิ.ย.
ECB ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อประจำปีจากค่าเฉลี่ยที่ 2.7% ลงเป็น 2.3% โดยเป้าหมายเงินเฟ้อของ ECB อยู่ที่ 2%
ด้านธนาคารกลางแคนาดา (BOC) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ในการประชุมเดือนมี.ค. โดยนายทิฟฟ์ แมคเล็ม ผู้ว่าการ BOC กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และลดลงจากระดับ 3.4% ในเดือนธ.ค. 2566 แต่ยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของ BOC ที่ 1%-3%