ธนาคารกลางไต้หวันส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า พร้อมกับแสดงความกังวลว่าการที่รัฐบาลเสนอให้มีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้านั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อของไต้หวัน
นายหยาง ชิน-หลง ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันแถลงต่อรัฐสภาไต้หวันในวันนี้ (14 ม.ค.) ว่า "ขณะนี้ธนาคารกลางยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนที่จะถึงเดือนมิ.ย." และเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาถามว่าธนาคารกลางไต้หวันจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือไม่ นายหยางกล่าวว่า "ในการประชุมสัปดาห์หน้า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางจะหารือกันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยังคงสร้างความวิตกกังวลให้กับคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางไต้หวัน โดยในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางไต้หวันได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปี 2567 ขึ้นสู่ระดับ 1.89% หลังจากมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.875% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในไต้หวันนั้นมาจากความเป็นไปได้ที่ว่า รัฐบาลอาจจะปรับขึ้นภาษีพลังงาน โดยนายหวัง เหม่ย-หัว รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันกล่าวในช่วงต้นเดือนนี้ว่า รัฐบาลจะตัดสินใจเกี่ยวกับภาษีพลังงาน หลังจากที่มีการยืนยันเกี่ยวกับระดับเงินอุดหนุนสำหรับบริษัทไต้หวัน พาวเวอร์ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคที่กำลังประสบปัญหาขาดทุน