นายอเลฮานโดร เตงโค ประธานและซีอีโอของฟิลิปปิน อมิวส์เมนต์ แอนด์ เกมมิง คอร์ป (Pagcor) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการคาสิโนของรัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ฟิลิปปินส์จะสามารถแซงหน้าสิงคโปร์ขึ้นเป็นศูนย์กลางการพนันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของเอเชียรองจากมาเก๊าได้อย่างเร็วที่สุดในปีหน้า โดยการเติบโตนี้คาดว่าจะมีขึ้นหลังจากการพัฒนารีสอร์ทแบบครบวงจรแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น และชดเชยกับการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน
นายเตงโคกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคาร (12 มี.ค.) ว่า บริษัทบลูมเบอร์รี รีสอร์ท คอร์ป (Bloomberry Resorts Corp) ของนายเอ็นริเก ราซอน มหาเศรษฐีพันล้านผู้เป็นเจ้าพ่อวงการขนส่งทางเรือและคาสิโน จะเป็นผู้ดำเนินการรีสอร์ทแบบครบวงจรแห่งใหม่ดังกล่าว โดยรีสอร์ทจะเปิดตัวที่กรุงมะนิลาในปลายปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดคาสิโนเพิ่มเติมอีก 8 โครงการ และ Pengcor ตั้งใจจะขายคาสิโนที่ดำเนินการโดยรัฐภายในต้นปี 2569 เป็นอย่างช้า
"ถ้าสิงคโปร์ไม่พัฒนาในเรื่องนี้ พวกเขาจะแพ้ราบคาบ ซึ่งไม่ต้องแปลกใจเลยหากปีหน้าเราจะขึ้นแซงหน้าพวกเขา" นายเตงโคกล่าว พร้อมเสริมว่า ฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่ารายได้จากการพนันโดยรวมจะสูงขึ้น 3.36 แสนล้านเปโซ (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากสถิติของปีที่แล้วที่ 2.85 แสนล้านเปโซ
นอกจากนี้ นายเตงโคประมาณการว่ารายได้จากการพนันโดยรวมของสิงคโปร์อยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฟิลิปปินส์กำลังพึ่งพารีสอร์ทและคาสิโนแบบครบวงจรเพื่อช่วยฟื้นฟูจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยฟิลิปปินส์ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.7 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.45 ล้านคนในปี 2566 แต่ยังคงเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับ 8.26 คนในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด
ทั้งนี้ โครงการคาสิโนต่าง ๆ ที่กำลังจะมีขึ้นและอาจต้องใช้เงินลงทุนสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อโครงการนั้น จะตั้งอยู่ในกรุงมะนิลาและอยู่ที่ฐานทัพคลาร์ก ซึ่งเป็นอดีตฐานทัพอากาศของสหรัฐ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ เช่น เซบูและเกาะโบราไกย์ โดยนายเตงโคกล่าวว่า เขาคาดหวังว่าการเปิดตลาดใหม่นี้จะสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาได้