อัยการสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ (15 มี.ค.) ว่า นายแซม แบงก์แมน-ฟรีด สมควรถูกจำคุก 40-50 ปี หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาขโมยเงิน 8 พันล้านดอลลาร์จากลูกค้าของ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีของเขาที่ประสบภาวะล้มละลายแล้วในขณะนี้
คณะลูกขุนตัดสินในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายแบงก์แมน-ฟรีด วัย 32 ปี มีความผิดในข้อหาฉ้อโกงและสมรู้ร่วมคิดรวม 7 กระทง โดยอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐในแมนฮัตตันกล่าวว่า "ผู้คนหลายพันคน รวมถึงผู้ที่อยู่อาศัยในประเทศที่ถูกทำลายด้วยสงครามและความไร้เสถียรภาพนั้น ได้มอบความไว้วางใจในการฝากเงินลงทุนไว้กับ FTX"
"แม้ในขณะนี้ นายแบงก์แมน-ฟรีดก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิด" อัยการเขียนไว้ในบันทึกการพิจารณาคดี
"ชีวิตของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องของความโลภและความโอหังที่ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ มีความทะเยอทะยานและการหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง ตลอดจนเสี่ยงโชคและเล่นการพนันซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยเงินของคนอื่น"
นายมาร์ก บอตนิก โฆษกของนายแบงก์แมน-ฟรีดปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ ส่วนทนายความของแบงก์แมน-ฟรีดกล่าวกับ ลูอิส แคปแลน ผู้พิพากษาศาลแขวงของสหรัฐว่า โทษจำคุก 5 ปี 3 เดือน ถึง 6 ปี 6 เดือนนั้น มีความเหมาะสม โดยพวกเขากล่าวว่า ลูกค้าของ FTX จะได้รับเงินส่วนใหญ่คืน และนายแบงก์แมน-ฟรีดไม่ได้ตั้งใจที่จะขโมยเงินลูกค้าของ FTX แต่อย่างใด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้พิพากษาแคปแลนมีกำหนดตัดสินลงโทษนายแบงก์แมน-ฟรีดในวันที่ 28 มี.ค.นี้ที่ศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตัน ขณะที่นายแบงก์แมน-ฟรีด วางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาและการตัดสินโทษของเขา