ซับไดออล (Subdial) แพลตฟอร์มการซื้อขายจากกรุงลอนดอนเปิดเผยว่า ดัชนีบลูมเบิร์ก ซับไดอัล วอตช์ (Bloomberg Subdial Watch Index) ซึ่งติดตามการซื้อขายนาฬิกามือสอง 50 รุ่นที่มีการซื้อขายมากที่สุด ปรับตัวลดลง 0.1% แตะที่ 33,628 ดอลลาร์สหรัฐ
หลังราคาตลาดนาฬิกาหรูมือสองพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปี 2564 และต้นปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด มูลค่าของนาฬิการุ่นที่ได้รับความนิยมก็ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่นั้นมา โดยดัชนีบลูมเบิร์ก ซับไดอัล วอตช์ ลดลงมากถึง 42% นับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วยหนุนบรรดาตลาดหุ้น และบิตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 2 เท่านับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนตลาดนาฬิกาหรูมือสอง โดยต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำผนวกกับความปรารถนาของนักลงทุนบางรายที่จะได้รับผลกำไรจากบิตคอยน์ และการถือครองสกุลเงินดิจิทัล ๆ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคานาฬิกาหรูพุ่งทะยานขึ้นในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด
ทั้งนี้ โรเล็กซ์ และปาเต็ก ฟิลิปป์ จะเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในเดือนเม.ย. ณ งานแสดงสินค้าวอทช์ส แอนด์ วันเดอร์ส (Watches and Wonders) นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอาจมีส่วนทำให้ราคามีเสถียรภาพ ท่ามกลางการจับตาของนักลงทุน
ราคานาฬิการุ่นที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดจากแบรนด์นาฬิกาหรูชั้นนำของสวิสปรับตัวลดลงน้อยกว่า 1% ในเดือนที่ผ่านมา เช่น นาฬิกาโอเดอะมาร์ส ปิเกต์ (Audemars Piguet) รุ่น Jumbo Royal Oak, นาฬิกาปาเต็กรุ่น Nautilus 5711 และนาฬิโรเล็กซ์ รุ่น Daytona ที่มาพร้อมกรอบเซรามิก
อย่างไรก็ดี ราคานาฬิกาโรเล็กซ์รุ่น GMT ซึ่งมีกรอบเซรามิกสีแดงและสีน้ำเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.9% สู่ประมาณ 20,600 ดอลลาร์สหรัฐ