ผู้บริหารนิปปอน สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่นกล่าวว่า หากข้อตกลงผ่านไปได้ด้วยดี บริษัทจะย้ายสำนักงานใหญ่ในสหรัฐไปยังเมืองพิตต์สเบิร์ก ซึ่งเป็นที่ตั้งของยูเอส สตีล ที่นิปปอน สตีล กำลังจะเข้าซื้อกิจการ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (19 มี.ค.) ว่า ข้อเสนอของนิปปอน สตีล ในการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในสหรัฐ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สินทรัพย์ของยูเอส สตีล ควรตกเป็นของคนในประเทศสหรัฐ ขณะที่นายโดนัล ทรัมป์ ก็ให้สัญญาว่าจะขัดขวางข้อตกลงนี้หากเขาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง
ทั้งนี้ นิปปอน สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกจากญี่ปุ่น ได้เจรจากับสหภาพแรงงานเหล็กกล้าสหรัฐ (USW) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานสำคัญสำหรับไบเดนและทรัมป์ในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยจนถึงตอนนี้ USW ก็ยังคงคัดค้านข้อตกลงการเทคโอเวอร์ดังกล่าว
นายทาคาฮิโระ โมริ รองประธานบริหารและหัวหน้าคณะเจรจาของนิปปอน สตีล ในข้อตกลงนี้ กล่าวว่า "เราไม่เพียงแต่จะรักษาสำนักงานใหญ่ (ของยูเอส สตีล) ในเมืองพิตต์สเบิร์กไว้เท่านั้น - ซึ่งผู้ประมูลรายอื่นก็ทำไม่ได้ - แต่เรายังวางแผนที่จะย้ายสำนักงานใหญ่ในสหรัฐของนิปปอน สตีล จากเมืองฮิวสตันไปยังพิตต์สเบิร์กอีกด้วย"
ในความเห็นที่เผยแพร่ในเอกสารของยูเอส สตีล ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 มี.ค.) นายโมริกล่าวว่านิปปอน สตีล ยังคงมีการพูดคุยกับ USW และได้ให้คำมั่นกับ USW หลายประการเกี่ยวกับความมั่นคงในการทำงาน การลงทุน และอื่น ๆ
นายโมริย้ำว่า นิปปอน สตีล จะปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันระหว่างยูเอส สตีล กับ USW โดยจะไม่ลดจำนวนพนักงาน ไม่ปิดสถานประกอบการ และไม่ย้ายฐานการผลิตเพิ่มเติมไปยังต่างประเทศ