คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ระบุว่า ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาผิดนัดชำระหนี้และเป็นต้นตอของวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนนั้น ได้รายงานข้อมูลอันเป็นเท็จว่า บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีก่อนประสบกับภาวะล้มละลาย
CSRC เปิดเผยว่า เอกสารที่เอเวอร์แกรนด์ได้ยื่นต่อคณะกรรมการ CSRC เมื่อวันจันทร์ (18 มี.ค.) ระบุว่า บริษัทเหิงต้า เรียลเอสเตท กรุ๊ป (Hengda Real Estate Group) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเอเวอร์แกรนด์ รายงานรายได้ในปี 2562 เพิ่มขึ้นราว 2.14 แสนล้านหยวน (2.97 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยการรับรู้รายได้จากการขายล่วงหน้า และรายงานรายได้อีก 3.50 แสนล้านหยวนในปีงบการเงิน 2563
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า CSRC ได้กล่าวโทษนายหุย กาหยัน ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานเอเวอร์แกรนด์ว่าเป็นตัวการในการรายงานข้อมูลรายได้อันเป็นเท็จของบริษัทเหิงต้าในช่วงเวลา 2 ปีดังกล่าว โดยระบุว่า นายหุยในฐานะผู้มีอำนาจกำกับดูแลในเวลานั้น ได้ใช้อำนาจในทางที่ผิดอย่างมหันต์ พร้อมกับกล่าวโทษบริษัทเหิงต้าว่าได้กระทำการอันเป็นเท็จในการออกตราสารหนี้วงเงินรวม 2.08 หมื่นล้านเยน ด้วยการใช้ตัวเลขเหล่านี้ในการทำการตลาด
คณะกรรมการ CSRC ได้สั่งปรับนายหุยเป็นเงิน 47 ล้านหยวนในข้อหารายงานผลประกอบการอันเป็นเท็จและข้อหาละเมิดกฎระเบียบด้านอื่น ๆ พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้นายหุยทำธุรกรรมในตลาดทุนตลอดชีวิต พร้อมกับสั่งปรับบริษัทเหิงต้าเป็นเงิน 4.18 พันล้านหยวน
นอกจากนี้ CSRC ยังได้สั่งลงโทษนายเซีย ไห่จวิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและนายพาน ต้าหรง อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของเอเวอร์แกรนด์ ด้วยการสั่งปรับและห้ามทำธุรกรรมในตลาด