ตลาดการเงินจับตาสถานการณ์ของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์อย่างใกล้ชิด หลังจากราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงลง 4.1% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) ส่งผลให้มูลค่าตลาดของแอปเปิ้ลหายไปถึง 1.13 แสนล้านดอลลาร์ และนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นแอปเปิ้ลดิ่งลงไปแล้ว 11%
ราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงลง หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้องบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด โดยระบุว่าทางบริษัทได้ผูกขาดตลาดสมาร์ตโฟนจนส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน และบริษัทคู่แข่ง ขณะที่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทนับตั้งแต่ iPhone, Apple Watch ไปจนถึง Apple Pay ต่างก็เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการผูกขาดของบริษัท
-- บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดี หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศฟ้องบริษัทในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด
ทั้งนี้ แอปเปิ้ลระบุว่า "ทางบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำฟ้อง ซึ่งจะปิดกั้นการออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค คดีนี้ถือเป็นการคุกคามตัวตนของเรา และหลักการที่ทำให้แอปเปิ้ลแตกต่างจากตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด หากกระทรวงฯ ได้รับชัยชนะ สิ่งนี้จะขัดขวางความสามารถของเราในการสร้างเทคโนโลยีที่ลูกค้าต้องการเห็นจากแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นการบรรจบกันระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการให้บริการ"
-- สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 9.5% สู่ระดับ 4.38 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.95 ล้านยูนิต
-- นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในฉนวนกาซา หลังจากมีรายงานว่า สหรัฐได้เสนอร่างมติต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะเปิดทางให้มีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 40 คนเพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์จำนวนหลายร้อยคนที่ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำอิสราเอล
-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษกำลังปรับตัวในทิศทางที่เหมาะสมในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% ในปีนี้ หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอาจจะปรับลด 0.70%
-- โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่ไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเฟดมีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในการประชุมเดือนมิ.ย.
"เรายังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย., ก.ย. และธ.ค." รายงานระบุ
ด้านนายมาร์ก แซนดี หัวหน้านักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ อนาลิติกส์ และนายพอล แอชเวิร์ธ หัวหน้านักวิเคราะห์ของแคปิตัล อิโคโนมิกส์ คาดการณ์เช่นเดียวกันว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.
-- ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเกาหลีใต้เปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ญี่ปุ่นเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ., อังกฤษเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากสถาบัน Gfk และยอดค้าปลีกเดือนก.พ. ทางด้านเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมี.ค.จากสถาบัน Ifo