รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมหนุนแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือครอบครัวผู้มีรายได้น้อยที่ยังต้องดิ้นรนกับค่าครองชีพ แต่จะปรับขึ้นในอัตราที่น้อยลงกว่าการขึ้นค่าแรงครั้งก่อน เนื่องจากเงินเฟ้อชะลอตัวลงแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (25 มี.ค.) ว่า ในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมาธิการจ้างงานที่เป็นธรรม (FWC) เพื่อทบทวนค่าจ้างประจำปี 2566-67 ซึ่งจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ (28 มี.ค.) รัฐบาลพรรคแรงงานจะเสนอให้มีการปรับขึ้นค่าแรง เพื่อให้แน่ใจว่าค่าแรงที่แท้จริงของแรงงานรายได้น้อยจะไม่หดหาย ซึ่งเป็นจุดยืนที่รัฐบาลยึดถือมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ทางทีวีในวันนี้ว่า "มีความคาดหวังว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่เราพยายามสร้างความมั่นใจว่าประชาชนที่ได้ค่าจ้างต่ำที่สุดในระบบเศรษฐกิจและประเทศของเราจะไม่แย่ลง"
"ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และเราทราบดีว่าแรงกดดันด้านค่าครองชีพนั้นหนักหนากว่าสำหรับประชาชนที่ได้รับค่าจ้างต่ำสุด"
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว คณะกรรมาธิการจ้างงานที่เป็นธรรมได้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5.75% เนื่องจากค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น โดยบางฝ่ายกังวลว่าการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดวงจรค่าจ้าง-เงินเฟ้อแบบงูกินหาง (wage-price spiral) และอัตราเงินเฟ้อออสเตรเลียก็ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ที่ระดับ 3.4% จากจุดสูงสุดที่ 8.4%
ด้านธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 3.3% ภายในเดือนมิ.ย. 2567
นอกจากนี้ รัฐบาลพรรคแรงงานยังให้คำมั่นว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือด้านค่าครองชีพเพิ่มเติมในการจัดสรรงบประมาณที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นี้อีกด้วย โดยจะมีการลดภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีทุกคนตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป