ด็อยท์เชอบาน (Deutsche Bahn) หรือการรถไฟเยอรมนี เปิดเผยในวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า บริษัทฯ ยอมที่จะค่อย ๆ ปรับลดจำนวนชั่วโมงทำงานของพนักงานขับรถไฟในการเจรจาค่าจ้างกับสหภาพแรงงานคนขับรถไฟ GDL เพื่อยุติข้อพิพาทและการประท้วงทั่วประเทศซึ่งกินเวลามานานหลายเดือน
ด็อยท์เชอบานระบุในเอกสารประชาสัมพันธ์ว่า "ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนั้นยากที่จะรับมือ แต่ตอนนี้เราก็สามารถประนีประนอมกันอย่างชาญฉลาดได้แล้ว"
บริษัทระบุว่า "กรอบเวลาทำงาน" จะถูกกำหนดขึ้น เพื่อช่วยให้พนักงานขับรถไฟค่อย ๆ ปรับลดชั่วโมงการทำงานของตัวเองลงสู่ระดับ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ภายในปี 2572 ขณะที่ยังคงค่าจ้างไว้ที่ระดับเท่าเดิม และเสริมว่า สำหรับพนักงานที่ยังคงต้องการจะทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ต่อไป จะได้รับค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 2.7%
ข้อตกลงดังกล่าวจะมีระยะเวลา 26 เดือน ซึ่งจะมีผลย้อนหลังโดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะไม่มีการหยุดงานประท้วงไปอีกเกือบ 2 ปี
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันว่าจะปรับขึ้นค่าจ้างอีก 420 ยูโร (ประมาณ 16,500 บาท) โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ และจ่ายค่าชดเชยเงินเฟ้อแบบครั้งเดียวที่ 2,850 ยูโร (ประมาณ 112,000 บาท)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เยอรมนีได้รับผลกระทบจากกระแสความเคลื่อนไหวทางอุตสาหกรรมในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและปัญหาคอขวดของพนักงานทำให้การเจรจาค่าจ้างในภาคการขนส่งไม่บรรลุผล ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อระบบรถไฟ การเดินทางทางอากาศ และการขนส่งสาธารณะ