ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้พบปะกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจชาวอเมริกันที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งรวมถึงนายสตีเฟน ชวาซแมน ผู้บริหารบริษัทแบล็กสโตน และนายคริสเตียโน เอมอน ผู้บริหารบริษัทควอลคอมม์ โดยการเปิดโอกาสให้บรรดาผู้นำธุรกิจของสหรัฐเข้าพบในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่จีนกำลังหาทางกอบกู้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและพยายามรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐให้ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า การประชุมกินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยบรรดาตัวแทนเป็นผู้ซักถามและปธน.สีก็ตอบคำถามเหล่านั้น ปธน.สีกล่าวว่า เขาไม่เห็นความจำเป็นที่สหรัฐและจีนจะต้องแยกออกจากกัน และเขาต้องการให้ธุรกิจสหรัฐลงทุนในจีนต่อไป
นอกจากนี้ ปธน.สียังรับทราบถึงปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมเสริมว่า เจ้าหน้าที่สามารถจัดการปัญหาดังกล่าวได้และเศรษฐกิจจีนยังไม่ถึงจุดสูงสุด การเจรจาครั้งนี้ดำเนินไปอย่างเปิดกว้างและตรงไปตรงมา
ปธน.สีระบุว่า จีนและสหรัฐควรแสวงหาจุดยืนร่วมกันในประเด็นสำคัญ ขณะเดียวกันก็ยอมให้มีความแตกต่างกันในประเด็นรอง
"การปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีนจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง" ปธน.สีกล่าวเสริม จีนกำลังวางแผนมาตรการสำคัญเพื่อการปฏิรูปเชิงลึกอย่างครอบคลุม รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจชั้นยอด
นอกเหนือจากผู้บริหารของบริษัทแบล็กสโตนและควอลคอมม์แล้ว ยังมีผู้บริหารบริษัทอีกหลายรายที่เข้าพบปะกับปธน.สี ซึ่งรวมถึงนายราจ ซูบรามาเนียม ซีอีโอของบริษัทเฟดเอ็กซ์, นายอีวาน กรีนเบิร์ก ซีอีโอบริษัทชับบ์ (Chubb), นายสตีเฟน ออร์ลินส์ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติด้านความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน, นายเครก อัลเลน ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน และนายมาร์ค คาร์นีย์ ประธานบริษัทบลูมเบิร์ก อิงค์
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มดีขึ้น หลังจากปธน.สีและปธน.โจ ไบเดน ได้พบปะกันที่เมืองซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แม้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นการใช้มาตรการควบคุมการค้าและข้อกล่าวหาเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์