รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกมาเตือนภาคธุรกิจไม่ให้พึ่งพาตลาดจีนเพียงแห่งเดียว โดยควรหันมาถอดบทเรียนจากการที่จีนเคยเก็บภาษีนำเข้าไวน์ออสเตรเลียจนทำให้ผู้ผลิตไวน์ออสเตรเลียเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่มาก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจีนประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าไวน์ออสเตรเลียให้มีผลในวันนี้ ซึ่งจะช่วยให้กลับมาซื้อขายได้อีกครั้ง จากที่เคยมีมูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (782 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยที่ผ่านมานั้น จีนเก็บภาษีไวน์ออสเตรเลียบางส่วนสูงถึง 218%
นายทิม ไอเรส ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการค้า เปิดเผยในวันนี้ (29 มี.ค.) ว่า การกระจายความเสี่ยงทางการค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับภาคธุรกิจของออสเตรเลีย และทางรัฐบาลจะร่วมมือกับบรรดาผู้ผลิตไวน์เพื่อให้รู้จักกระจายความเสี่ยง โดยไม่ควรทุ่มหมดหน้าตักไปกับแค่ตลาดใดตลาดหนึ่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลีย รวมถึงไวน์ออสเตรเลีย เมื่อทั้งสองประเทศมีข้อพิพาทกันเมื่อปี 2563 หลังจากที่นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้น ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นกำเนิดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี เมื่อออสเตรเลียได้รัฐบาลใหม่เมื่อเดือนพ.ค. 2565 ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับจีนก็ดีขึ้น โดยการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และจีนก็ได้ยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าสำหรับข้าวบาร์เลย์ ไวน์ ถ่านหิน และไม้